ร่างกายแข็งแกร่งของเจิ้นหลินเฟิงค่อย ๆ จมลงสู้ก้นนทีอย่างเชื่องช้า ในสมองอันโง่เขลาของเขาก็ประมวลผลเรื่องราวต่าง ๆ มากมายในทันที
หากมีโอกาสอีกหนึ่งครั้ง ขอแค่เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น เขาจะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี และจะรักเพียงนางเท่านั้น
ได้โปรด.....ข้าขอโอกาสอีกครั้ง
ขอโอกาสกลับไปแก้ไขเรื่องราวที่เคยผิดพลาดทั้งหมดอีกครั้ง
หากมีโอกาสอีกครั้ง
ข้าจะเฝ้าทะนุถนอมคืนวันเวลาดี ๆ ที่มีร่วมกับนางให้ดีที่สุด...
แสงสว่างเจิดจ้า ชายหนุ่มรูปงามในชุดนักรบปรากฏกายขึ้น เขาส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้แก่เจิ้นหลินเฟิง และสะบัดแขนเพียงครั้งเดียว เจิ้นหลินเฟิงก็เหมือนถูกดูดเข้าไปในวงล้อขนาดมหึมา มันหมุนวนเวียนสลับซ้ายขวาไปมาจนเขาเวียนหัว
"ในเมื่อเจ้าขอโอกาสอีกครั้งข้าก็จะให้ จากนี้ไปได้โปรดดูแลสตรีผู้นั้นแทนข้า ดูแลนางให้ดีที่สุด หากวันใดที่เจ้าผิดสัญญาข้าจะขอนางคืน"
น้ำเสียงของชายผู้นั้นแข็งแกร่งดุดัน เจิ้นหลินเฟิงเห็นใบหน้าเขาเพียงครู่เดียวเท่านั้น คล้ายกับเป็นคนที่เคยรู้จักแต่ก็ไม่รู้จัก มันคุ้นเคยอย่างแสนประหลาด
"ขอบคุณ"
เจิ้นหลินเฟิงกล่าวขอบคุณเพียงสั้น ๆ แสงสว่างนั่นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเจิ้นหลิ้นเฟิงต้องใช้มือปิดตาเอาไว้
ชายหนุ่มตื่นขึ้นในเรือนพักอันแสนคุ้นเคย ความรู้สึกหนาวเย็นแผ่ซ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เจิ้นหลินเฟิงลุกเดินขึ้นไปปิดหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่ากระโดดลงแม่น้ำเพื่อช่วยเหลือนาง อากาศตอนนั้นเต็มไปด้วยพายุฝนรุนแรงและอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก เหตุใดด้านนอกเรือนในเวลานี้จึงมีแต่หิมะขาวโพลน
ที่นี่คือ!!
เมืองเหมิงจู!! อย่างนั้นหรือ?
คนตัวสูงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาตบใบหน้าตัวเองหนึ่งที ความเจ็บปวดเห่อขึ้นมาอย่างชัดเจน ถ้าจำไม่ผิดวันที่หิมะตกเช่นนี้มัน.....??
ลู่ซี
เจิ้นหลินเฟิงรีบวิ่งไปยังหอหนังสือ ซึ่งเป็นที่ที่นางอยู่เป็นประจำ เขาวิ่งออกไปโดยไม่ได้สวมชุดคลุมกันหิมะ อากาศตอนนี้หนาวเย็น แต่ในใจเขาร้อนรุ่มไปหมด ขอเพียงได้พบหน้านางอีกครั้ง นั่นย่อมเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาฝันถึงเป็นเรื่องจริง
เขาวิ่งไปจนถึงหอหนังสือของจวนเจ้าเมือง ถ้าจำไม่ผิดวันนี้จะเป็นวันที่เขาเพิ่งกลับมาจากการออกไปท่องเที่ยวกับลู่จวิ้นอ๋อง และชวนนางออกไปซื้อของให้กับซวนผิงอี้
ถ้าเป็นเช่นนั้นลู่ซีจะนอนขลุกอยู่ในห้องหนังสือเพราะความขี้เกียจ
กลิ่นของน้ำมันตะเกียงบรรยากาศอันแสนคุ้นเคย แววตาของเจิ้นหลินเฟิงวูบไหวเขารีบก้าวเข้าไปด้านในโดยไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า
ร่างสูงก้าวเข้าไปยังมุมอ่านหนังสือของนาง ภาพหญิงสาวหลับตาพริ้มนอนหลับสนิทอยู่บนตั่งนอน ผ้าห่มขนเป็ดร่วงหล่นลงมาที่พื้นในลักษณะเดิม ใบหน้าของเจิ้นหลินเฟิงเคลือบยิ้มอย่างมีความสุข
ในที่สุดคำขอของเขาก็เป็นจริง สวรรค์เปิดโอกาสให้เขาได้กลับมาแก้ไขเรื่องราวผิดพลาดเหล่านี้อีกครั้ง เขาสัญญาว่าจะทำทุกอย่างในครั้งนี้ให้ดีที่สุด
"ซีซี" เขาเรียกชื่อนางแผ่วเบา ผ้าห่มขนเป็ดถูกหยิบคลุมบนร่างเล็กบอบบาง มือข้างหนึ่งก็ปัดปอยผมที่ปรกหน้านางอย่างอ่อนโยน เขาอยากพิจารณาใบหน้าของลู่ซีให้ชัดเจน อยากจ้องใบหน้าเช่นนี้ของนางไปตลอดชีวิตของเขา
ลมหายใจของนางสงบราบเรียบ
"ซีซี" เจิ้นหลินเฟิงเรียกชื่อนางอีกครั้ง
"พี่ซื่อหยวน" คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกไขว่คว้ามือของใครสักคน
เจิ้นหลินเฟิงรับมือนางมากุมเอาไว้
"ท่านฝันร้ายหรือ" เจิ้นหลินเฟิงขยับตัวเข้าไปใกล้นาง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าไปหา คนตัวสูงจำใบหน้าแดงระเรื่อเช่นนี้ของนางได้
"เสี่ยวเฟิงเจ้าเองหรือ" เมื่อลืมตาขึ้น ภาพทับซ้อนของอู๋ซื่อหยวนกับเจิ้นหลินเฟิงผสานกัน นางกะพริบตาไล่ความพร่าเบลอ
"ข้าเองเสี่ยวเฟิงของท่าน" เจิ้นหลินเฟิงจับมือนางไม่ปล่อย
ลู่ซีขมวดคิ้ว วันนี้เขาดูอ่อนโยนกับนางอย่างผิดปกติ
"เจ้าไม่สบายหรือเปล่า" ลู่ซีใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกเขากุมเอาไว้จับหน้าผาก "ตัวก็ไม่ร้อนนี้" นางไม่เข้าใจ
คนตัวเล็กตอนนี้รู้สึกอึดอัด เจ้าเด็กคนนี้วันนี้มีอะไรแปลกไป เมื่อเดือนก่อนยังทำท่ากวนประสาทนางอยู่เลย สายตาก็เช่นกันเหตุใดจึงมองนางเช่นนั้น
"เสี่ยวเฟิงถอยออกไปก่อน" ลู่ซีรู้สึกว่าเขาขยับเข้ามาชิดนางเกินไป ความใกล้ชิดและความเงียบของหอสมุดทำให้นางได้ยินเสียงลมหายใจของเขาชัดเจน
"ข้าคิดถึงท่าน" เจิ้นหลินเฟิงพูดออกไปตามความรู้สึก
"เจ้ากินยาไม่เขย่าขวดหรือเปล่า ร้อยวันพันปีไม่เคยพูดคำนี้" นางตกใจ ไม่เข้าใจซ้ำยังสับสน เจ้าเด็กปลิ้นปล้อนนี่ วันนี้ต้องการอะไรจากนางกันแน่ ถึงได้มาคลอเคลียนางคล้ายกับลูกแมวก็ไม่ปาน
ใบหน้าของลู่ซีใกล้แค่เพียงฝ่ามือเท่านั้น ริมฝีปากอวบอิ่มน่ารักนั่นเจิ้นหลินเฟิงอยากช่วงชิงหาความหวานจากนางเหลือเกิน เมื่อครั้งก่อนเขาไม่เคยทำดีกับนางตอนนี้เขาจะดีกับนางให้มากที่สุด
คนตัวเล็กเองค่อนข้างตกใจกับการเปลี่ยนไปแบบพลิกฝ่ามือเช่นนี้นางรีบผลักเขาออกห่าง หญิงสาวผุดลุกขึ้นทันที
นางบิดตัวอย่างไปมาอย่างขี้เกียจสายตาก็ก้มมองลงไปที่พื้นห้อง
"เสี่ยวเฟิงทำไมเจ้าถึงไม่เปลี่ยนรองเท้า แล้วเสื้อคลุมเจ้าอีกหายไปไหนไยจึงออกมาจากห้องด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ เช่นนี้" ลู่ซีพองแก้มอย่างอารมณ์เสีย
"อ้อ คิดถึงถึงท่านจนลืมทุกอย่างน่ะ"
คำพูดของเจิ้นหลินเฟิงทำเอาลู่ซีหน้าเปลี่ยนสี
"ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้ว" พูดจบนางก็หมุนกายจะเดินกลับห้อง
แต่เจิ้นหลินเฟิงเองไม่ปล่อยนางไปง่าย ๆ
"ให้ข้าอุ้มท่านไปส่งที่ห้องดีหรือไม่" เขารั้งมือนางไว้ซ้ำยังพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"มะ ไม่ต้อง" นางละล่ำละลัก "งะงั้นข้าไปเที่ยวตลาดดีกว่า"
"งั้นข้าไปด้วย" พูดจบเจิ้นหลินเฟิงก็พานางออกไปหน้าเรือน
คนตัวเล็กผลัดเปลี่ยนเป็นรองเท้าสำหรับภายนอก เจิ้นหลินเฟิงก็บรรจงก้มลงเปลี่ยนรองเท้าให้นางอย่างทะนุถนอม แม้ว่าลู่ซีจะปฏิเสธเขาแล้วก็ตาม แต่เจิ้นหลินเฟิงก็ไม่ยอมปล่อยมือ บ่าวรับใช้รีบนำเสื้อคลุมมาให้เขาทันที จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปเที่ยวเล่นกันในตลาด
ถ้าจำไม่ผิดวันนี้จะเป็นวันที่นางพบกับเซียวจ้าวเหอเป็นวันแรก พวกเขาทั้งสองคนเริ่มสานสัมพันธ์กันในวันนี้ เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตานั่นให้ได้
ปกติยามเดินตลาดด้วยกันไม่เขาก็นางจะเป็นฝ่ายเดินนำหน้า แต่วันนี้มือแข็งแกร่งของเจิ้นหลินเฟิงจับมือนางไว้แน่นไม่ปล่อยซ้ำยังพานางเดินเคียงข้างกันอีกด้วย
ลู่ซีไม่เข้าใจว่าวันนี้เขาไปกินอะไรมา
"ซีซีท่านเหนื่อยหรือไม่"
"ซีซีท่านหนาวหรือไม่"
"ซีซีท่านหิวหรือไม่"
เจิ้นหลินเฟิงพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนบางครั้งนางก็รู้สึกรำคาญ อยากจะสลัดคนคนนี้ให้หลุดออกไปไกล ๆ แต่เขาก็จับมือนางไม่ปล่อย พานางเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ชื่นชมสิ่งของต่าง ๆ อย่างเอาแต่ใจ
หลายครั้งที่หญิงสาวลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา นางยอมรับว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ งดงามอนาคตจะต้องได้แต่งงานกับสตรีที่คู่ควร ซึ่งสตรีคนนั้นย่อมไม่ใช่สตรีทึนทึกเช่นนางอยู่แล้ว