webnovel

พี่สาวผู้นั้นเป็นของข้า

“ข้อขอโอกาสอีกครั้ง ขอโอกาสกลับไปแก้ไขความผิดที่กระทำต่อนางอีกสักครั้ง” ชาติที่แล้วเพราะโง่เขลาเบาปัญญาหลงเชื่อคำพูดของคนชั่ว ทำให้เขาปฏิบัติตนไร้น้ำใจต่อนาง หากมีโอกาสอีกครั้งเขาจะรักถนอมนางเพียงผู้เดียว เขาคือ เจิ้นหลินเฟิง อดีตองค์ชายรัชทายาท เพราะพระมารดาหรืออดีตฮองเฮาต้องโทษและประหารทำให้เขาถูกถอดยศ กลายมาเป็นองค์ชายธรรมดา และถูกส่งมาอยู่เมืองหน้าด่านที่ทุรกันดาร จึงทำให้พบกับลู่ซีที่นั่น สตรีทึนทึกที่อายุเลยวัยปักปิ่นไปแล้วหลายปี หน้าตาธรรมดาไม่งดงาม ในคราแรกก็รังเกียจที่ต้องให้สตรีขี้เหร่ผู้นั้นสอนหนังสือ แต่เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกลับพบว่าลู่ซีนั้นคือสตรีผู้มีจิตใจงดงามผู้หนึ่ง และมีอดีตเรื่องความรักที่เจ็บช้ำ นางเป็นพี่สาวแสนดีที่คอยปกป้องคุ้มครองเขายามถูกคนดูแคลน รู้ตัวอีกทีนางก็เป็นมิตรภาพที่เคียงข้างช่วยเหลือให้กำลังใจเขามาตลอด แต่เพราะมารู้ทีหลังว่าบิดาของนาง เป็นผู้ที่ทำให้พระมารดาเขาต้องถูกประหารและตัวเขาต้องโทษ จากมิตรภาพจึงกลายเป็นศัตรู และไม่ใช่ว่าที่อุ้มชูเลี้ยงดูเขาไว้ในตระกูลลู่ ก็เพราะหวังผลประโยชน์จากเขาในอนาคตหรอกหรือ เพื่อกลับคืนสู่ฐานะเดิมเจิ้นหลินเฟิงจึงหลอกใช้ หาผลประโยชน์จากลู่ซีและครอบครัว และแก้แค้นนาง ทำให้นางเจ็บช้ำน้ำใจถึงที่สุด จนกระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายถึงรู้ว่าเขาทำพลาดไปแล้ว ข้าเจิ้นหลินเฟิง ขออ้อนวอนต่อเทพเจ้ามังกร ให้มีโอกาสอีกครั้งแก้ไขเรื่องผิดพลาดทั้งหมดนี่ด้วยเถอะ

Pum_Nanth · History
Not enough ratings
45 Chs

19 ความตายมันสบายเกินไป

เจิ้นหลินเฟิงไม่ได้กลับเหมิงจู แต่เปลี่ยนเส้นทางไปเมืองหลวงแทน ระหว่างนั้นผู้ที่เรียกตนว่าเหล่าเซี่ยปรากฏตัวขึ้นทิ้งจดหมายและแผนการไว้ให้เขา หากอยากแก้แค้นลู่จวิ้นอ๋องและกลับคืนสถานะเดิม ให้เขาอ่านและพิจารณาแผนการทั้งหมด

ในนั้นแนะนำให้เขากำจัดลู่จวิ้นอ๋อง ทำเช่นไรก็ได้ให้คนผู้นั้นถูกปลดออกจากตำแหน่งและตกต่ำจนถึงขีดสุด ให้กลายเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก

เหล่าเซี่ยส่งจดหมายมาพร้อมกับหลักฐานการปล่อยโจรเข้าป่า เรื่องละเลยกฎหมายไม่เอาความคนผิดของลู่จวิ้นอ๋องหนักหนานัก เขาปล่อยพวกมันกลับเข้าป่าโดยไม่ลงโทษที่พวกมันปล้นเสบียงหลวง ซึ่งไม่ใช่แค่คนสองสามคน แต่เป็นกองโจรทั้งกอง พวกมันมีขุมกำลังเฉียดร้อยคน ไม่แน่ว่าอาจเป็นแผนซื้อใจโจรป่า ไว้วางแผนล้มราชบัลลังก์อยู่ลับหลังก็เป็นได้

คนของเหล่าเซี่ยแอบแฝงอยู่ข้างกายองค์จักรพรรดิมาโดยตลอด หลายปีนี้พยายามยุยงให้เจิ้นเฉาเคลือบแคลงสงสัยในตัวน้องชายผู้นี้อยู่เสมอ

นานวันเข้าความแคลงใจก็สุมอก เริ่มเอียงเอนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ในการประชุมขุนนางครั้งสำคัญ ลู่จวิ้นอ๋องเกิดขัดพระทัยเรื่องการโยกย้ายกำลังพล องค์จักรพรรดิเริ่มไม่วางใจน้องชายบุญธรรม สั่งยึดตราตั้งกองทัพสามแสนนายคืน

แต่ลู่จวิ้นอ๋องขัดขืน เพราะอดีตองค์จักรพรรดิผู้ล่วงลับกำชับไว้ว่า จะส่งคืนได้ก็ต่อเมื่อเขาตายเท่านั้น

เจิ้นเฉาบีบน้องชายผู้นี้ทุกทางทั้งใช้บุตรสาวบุตรชายมาข่มขู่ สุดท้ายจึงยอมยกให้แต่โดยดี ถูกปลดจากตำแหน่งจวิ้นอ๋องที่พระราชทานโดยอดีตฮ่องเต้ กลายเป็นชนชั้นต่ำในช่วงเวลาไม่นาน

ส่วนตัวเจิ้นหลินเฟิงก็กลับคืนสู่ตำแหน่งรัชทายาท

คนอื่นล้วนถูกส่งไปอยู่คุกหลวง แต่ลู่ซีถูกส่งมาสถานที่หรูหราแห่งหนึ่ง ลู่ซีสวมชุดเก่าเหม็นสาบ นางอยู่ในชุดนี้เกือบเดือนแล้วเห็นจะได้ทั้งเหม็นทั้งชื้น น่าแปลกที่ระดูของนางไม่มาร่วมสองเดือนแล้ว อาจจะเป็นเพราะร่างกายของนางตอนนี้อ่อนแอก็เป็นได้

เนื้อตัวเจ็บระบมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ร่างกายถูกทรมานแผลเก่าแผลใหม่สะสมเต็มร่างไปหมด โชคดีอย่างเดียวคือนางไม่งดงาม ทำให้พวกมันไม่แตะต้องให้มัวหมอง

เมื่อถึงประตูใหญ่ พวกมือปราบโยนนางให้กับทหารองครักษ์และรับเงินสินน้ำใจด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส่ ลู่ซีเห็นแล้วรังเกียจ

ชุดของคนที่ออกมารับตัวนาง ทำให้รู้ว่าที่นี่คือวังหลวง

ทหารองครักษ์ลากนางไปตามทางไม่ปล่อยให้นางได้มีโอกาสพูดอะไรทั้งสิ้น ครู่หนึ่งก็ถูกเตะโด่งเข้าไปในโถงงานเลี้ยง สายตาของหญิงสาวปรับตัวไม่ทัน แสงสว่างจ้าในฉับพลันทำให้นางแสบตาจนต้องยกแขนเสื้อปิดหน้า

ผู้คนที่กำลังส่งเสียงอื้ออึง ตกใจที่จู่ ๆ สตรีตัวเหม็นผู้นี้ถูกโยนเข้ามา

"พี่ซีซี" ซวนผิงอี้ปรี่เข้าไปช่วยเหลือแต่โดนมือแข็งแกร่งของใครบางคนรั้งร่างบอบบางเอาไว้บนตัก

ลู่ซีได้ยินเสียงหวานใสก็จดจำได้ว่าคนที่เรียกชื่อนางเป็นใคร

"ผิงเอ๋อ หรอกหรือ" ลู่ซีเอ่ย

เมื่อทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ภาพแรกที่นางเห็นคือซวนผิงอี้อยู่ในอ้อมกอดของเจิ้นหลินเฟิง คืนนี้เขาสวมชุดเครื่องแบบอย่างราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ใบหน้าผ่องใส

เขากวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยสีหน้าเย็นชาเรียบเฉย หญิงสาวกัดเม้มปากจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก

ฟ่านอี้หยวนเห็นลู่ซีอยู่ในสภาพซวนเซก็รู้สึกเวทนา จะเข้าไปประคองช่วยเหลือ

"หากเจ้าช่วยเหลือนาง ข้าจะตัดขาดจากเจ้าและตัดสัมพันธ์กับแคว้นอู่" เจิ้นหลินเฟิงใช้ข้ออ้างทางการเมืองข่มขู่ ตอนนี้แคว้นอู่ยังต้องพึ่งพาแคว้นเหลียงจึงมิอาจตัดสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ เขาทำได้เพียงหันหลังไม่สามารถทนมองสตรีตรงหน้าได้

"อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว" นางฝืนยิ้ม "องค์ชายฟ่านอย่าได้ห่วงกังวลข้าน้อยเลย" นางพูดกับฟ่านอี้หยวน

ฟ่านอี้หยวนหันไปมองนางด้วยแววตาสับสน

ริมฝีปากที่เคยอ่อนนุ่มตอนนี้กลับแตกระแหง ที่มุมปากยังมีสะเก็ดแผลและคราบเลือดที่เช็ดออกไม่หมด ใบหน้าบวมช้ำเป็นรอยมือชัดเจน หัวใจของเจิ้นหลินเฟิงวูบไหว เขาให้คนพานางมาให้ถึงที่นี่ ตั้งใจให้นางเห็นภาพความสำราญของเขา

ไม่ได้คิดว่าจะพบนางในสภาพเช่นนี้

"องค์รัชทายาท มีอะไรกับหม่อมฉันอีกหรือไม่" นางเอ่ยถาม "ถ้าไม่มีก็ส่งหม่อมฉันเข้าคุกหลวงเถิด" ลู่ซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

"เสี่ยวเฟิง ปล่อยนางไปเถอะ" ซวนผิงอี้ขอร้องน้ำตานองหน้า นางสงสารลู่ซี อย่างน้อยครั้งหนึ่งลู่ซีก็เคยเป็นพี่สาวที่รักของนาง

ผู้ที่เห็นใบหน้าของซวนผิงอี้ยามร้องไห้ต่างก็รู้สึกสงสารจับใจเมื่อหญิงงามหลั่งน้ำตา

ฝ่ามือเขาสัมผัสโอบล้อมรอบเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่เหนือตัก ลู่ซีเห็นทุกการกระทำ

"ปล่อยนางไปเหรอ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกผิงเอ๋อ ถ้าเจ้ายอมแต่งงานเป็นพระชายา....ของข้า" เจิ้นหลินเฟิงเชยคางคนตัวเล็กบนตัก "ไม่แน่อาจจะให้นางมาอยู่ที่เรือนซักล้างเอาบุญดีหรือไม่ ดีกว่าไปถูกขังอยู่ในคุกหลวง"

ซวนผิงอี้ได้ยินคำขอแต่งงานก็เอียงอายหน้าแดงพยักหน้ารับปาก โดยลืมสตรีที่ยืนแผ่นหลังเหยียดตรงอยู่เบื้องล่าง

ลู่ซีคิดไว้แล้วไม่มีผิด ยามที่สามแสบของนางมีความสุขก็มักจะหลงลืมสตรีทึนทึกผู้นี้

"ถ้าท่านทั้งสองตกลงกันได้แล้วก็ส่งข้า..." ยังไม่ทันพูดจบประโยคลู่ซีก็ทรุดกายล้มลงกับพื้น

และเป็นฟ่านอี้หยวนที่พุ่งตัวเข้าช่วยเหลือ "พี่ซีซี" เขาเขย่าตัวนาง แต่คนตัวเล็กกลับสลบไม่ยอมตื่น ฟ่านอี้หยวนจับชีพจรที่ข้อมือและพบว่ามีชีพจรอีกสายหนึ่งแฝงอยู่ในตัวนาง หรือว่า.... เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงรีบพานางไปด้วยกันกับตนเองทันที

เจิ้นหลินเฟิงกำมือแน่น เขาเองก็ตั้งใจจะไปช่วยเหลือนาง แต่ดันโดนฟ่านอี้หยวนตัดหน้าไปเสียก่อน

เขาทะยานตามออกไปด้วยความโกรธ ตั้งใจไปทวงนางคืน นางเป็นนักโทษของเขา ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เอานางไปทั้งนั้น

ฟ่านอี้หยวนตกใจที่เห็นเจิ้นหลินเฟิงตามมาไม่ห่าง ยิ่งรีบเร่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตามเร็วขึ้นเท่านั้น จึงหยุดเจรจา

"ส่งนางคืนให้ข้า" รัชทายาทแคว้นเหลียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"แล้วถ้าข้าไม่คืนให้ เจ้าจะทำเช่นไร"

ระหว่างที่พวกเขาสนทนากัน ลู่ซีได้ยินทั้งหมด นางไอออกมาเป็นเลือด หญิงสาวใช้แขนเสื้อของฟ่านอี้หยวนเช็ดปากไม่ให้เจิ้นหลินเฟิงเห็น

"พี่ซีซี" ฟ่านอี้หยวนเห็นรู้สึกสงสารนางจับใจ

"เจิ้นหลินเฟิง นางดีกับเจ้าแค่ไหนเจ้าจำไม่ได้หรืออย่างไร"

"อี้หยวน" ลู่ซีตบแผงอกของชายหนุ่ม "วางข้าลงเถิด อย่าวุ่นวายเพราะข้าเลย"

"แล้วท่านกำลัง...."

ลู่ซีส่ายหน้าไม่ให้เขาพูด เขาจึงจำใจปล่อยนางลง

"องค์ชายรัชทายาท หม่อมฉัน...พร้อมไปกับพระองค์แล้ว ส่วนองค์ชายฟ่านทำไปเพราะขาดสติอย่าได้ถือสาเขาเลย"

"สตรีเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรไปขอร้องแทนคนอื่น" เจิ้นหลินเฟิงดูถูก

ลู่ซีมองฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ มุมปากยกยิ้มอย่างเดียดฉันท์ในโชคชะตา

"งั้นให้ข้าตายด้วยเถอะ อย่าเก็บข้าไว้อีกเลย" ลู่ซีร้องขอความตายจากเขา

"อยู่ก่อนเถอะซีซี ความตายมันสบายเกินไป"