webnovel

ตอน เมื่อความทรงจำของฉันดับสูญ5(ตอนจบ)

เมื่อความทรงจำของฉันดับสูญ6

นับตั้งแต่ที่คณะครูอาจารย์ ที่มาจองห้องใช้จัดอบรมสัมมนา จนเวลาล่วงเข้าวันที่สาม อันเป็นวันสิ้นสุดของการสัมมนาอบรม

เด็กๆ ที่จะส่งไปเป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวันนั้น  มันไม่ได้แตกต่างไปจากเหตุการณ์ที่ทิวาเคยเห็นในนิมิตเลย

มันยิ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันจะเกิดขึ้นจริงๆ และทิวาเอง ก็ตัดสินใจกระทำตามที่เคยได้เห็นมา

"ในช่วงเที่ยง ของวันสุดท้าย วันที่29มีนาคม หลังจากที่คณะครูเสร็จสิ้นจากการอบรม โดยมีพิธีปิดการอบรมเสร็จลงแล้ว ก็แยกย้ายลงไปรับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารชั้นล่างของโรงแรม ทิวากลับลงมาที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นออฟฟิศของแผนกและเข้าไปจัดเตรียมเอกสาร ใบบิลแจ้งยอดรายจ่ายของคณะอบรม เพื่อนำขึ้นไปให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่จัดงาน ได้เซ็นรับทราบ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการอบรมสัมมนาครั้งนี้

หลังจากจัดเตรียมเอกสารเสร็จ ทิวาก็กลับขึ้นมาที่ห้องสัมมนา เพื่อรอให้คณะอาจารย์ ขึ้นมาจากห้องอาหาร และจะได้เซ็นรับทราบรายจ่ายในครั้งนี้ ทิวานั่งรอและชั่งใจตนว่าจะทำอย่างที่เห็นหรือไม่ คิดไปคิดมาจึงตัดสินใจ เขียนโน๊ตแนบไปกับเอกสารการเงิน และใบตริตรองการบริการของแผนก

โดยด้านหน้าทิวาได้เขียนชื่อสกุลตน ส่วนด้านหลังทิวาได้เขียนเอาไว้ว่า " อาจารย์พี่เอ๋คับ ขับรถช้าๆ หน่อยนะคับ น้องเป็นห่วงกลัวพี่จะเกิดอุบัติเหตุ จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา (ทิวา) "

เขียนเสร็จทิวาก็แป๊ะเทปติดเอาไว้กับเอกสาร เพื่อรอคณะอาจารย์กลับขึ้นมาเก็บของ บ่ายโมงคณะอาจารย์กลับขึ้นมาจากห้องอาหารเพื่อจะเก็บสัมภาระและอุปกรณ์ในการอบรม ทิวาหยิบแฟ้มเอกสารมายื่นส่งให้อาจารย์พี่เอ๋ เพื่อให้แกได้เซ็นรับทราบ

หลังจากที่แกเซ็นเอกสารแล้ว แกก็ขอให้ทิวามาช่วยยกสัมภาระ เพื่อเอาลงไปส่งที่รถ

ทิวาขอตัวเอาเอกสารลงไปเก็บก่อน แล้วจะนำรถเบลขึ้นมาใส่ของให้ ทิวาเปิดดูแฟ้มเอกสารเพื่อตรวจดูว่าเรียบร้อยหรือป่าว หลังจากตรวจดูว่าเรียบร้อยดี ทิวาก็แลเห็นกระดาษโน๊ตที่ตนเขียนเอาไว้

อาจารย์พี่เอ๋แกคงไม่ได้ดู พอจะเดินออกมา อาจารย์พี่เอ๋ก็เรียกให้รอ

พอแกเดินเข้ามาใกล้ แกก็บอก "ขอให้ช่วยตามเบลมาขนของลงไปให้หน่อย? "

ทิวาตอบกลับไปว่า " เดี๋ยวอาจารย์รอสักครู่นะคับ เดี๋ยวผมมาขนของลงไปส่งให้ ผมขอเอาเอกสารลงไปเก็บแป๊บนึง " 

ว่าพร้อมกับยื่นโน๊ตแผ่นนั้นให้แกพร้อมกับพูดว่า "อันนี้ของพี่คับ ชอบขับรถเร็วเกิน "  พูดจบทิวาก็เดินห่างไป

อาจารย์พี่เอ๋อ่านจบก็ตะโกนเรียกตามหลัง พร้อมถามว่า

" น้อง..ทิวานี่ คือใครหรอคะ? "

ทิวาหันกลับไป แล้วชี้นิ้วมาที่หน้าอกตัวเอง จากนั้นจึงหันหลังเดินไปที่ออฟฟิศด้านล่าง  เพื่อเก็บเอกสารและลงไปที่ล๊อบบี้ เพื่อเอารถเบลขึ้นมาขนของ

ราวสามนาทีทิวาก็กลับขึ้นมาที่ห้องสัมมะนาพร้อมรถเบลขนของหนึ่งคัน ทิวาก็ถามคณะอาจารย์ว่า "จะเอาสิ่งไหนบ้างคับ"

คณะอาจารย์ก็บอกว่า "เอาพวกเครื่องปริ้นและกล่องเอกสารค่ะ ส่วนกระเป๋าพวกพี่จะพากันถือเอง"

"ทิวาก็ยกเครื่องปริ้นเอกสาร และกล่องต่างๆใส่รถเบลจนเรียบร้อย"

พอเสร็จก่อนจะนำลงไปส่งอาจารย์พี่เอ๋ก็เรียกเอาไว้อีกครั้ง พร้อมกับถามทิวาว่า ' เธอเป็นหมอดูหรอ ทำไมถึงรู้ว่าพี่ขับรถไว? '

ทิวาตอบกลับไปว่า "ป่าวคับ ผมไม่ได้เป็นหมอดู ผมแค่รู้สึกหน่ะคับ"

และทิวาก็บอกต่อไปอีกว่า "ในวันเดินทาง หรือก่อนวันเดินทางไปงานนั้น ทางทีมช่างงาน ร้านที่รับทำอุปกรณ์การแสดง อาจจะทำส่งให้ไม่ทันหรืออาจมีปัญหาให้ล่าช้า และเมื่อไปถึงที่นั่น จะมีเด็กคนนึงไม่สบายจนอาจร่วมแสดงไม่ได้.."

อาจารย์พี่เอ๋กับเพื่อนๆ ก็ถามอีกว่า "เด็กคนนั้นเป็นใครผู้หญิงหรือผู้ชายค่ะ"

ทิวาอึกอักว่า จะตอบไปตามที่เห็นดีหรือไม่ หากไม่บอกก็กลัวพวกอาจารย์จะเข้าใจผิด หาว่าตนนั้นพูดเกินจริง ทิวาจึงตอบว่า

"เป็นเด็กผู้หญิงคับ น้องเค้าจะมีปัญหาไม่สบาย เพราะอาการป่วยที่ถุงลมช่องคอ"

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ พี่อาจารย์ผู้ชายก็ถามว่าบอกได้ไหมว่า "น้องคนนั้นเป็นใคร "

ทิวาช่างใจนิดนึงจึงตอบไปว่า

" น้องแพรวคับ! "

อาจารย์ผู้หญิงอีกท่านนึง ที่ดูอาวุโสกว่าใคร ก็พูดขึ้นเมื่อได้ยินชื่อที่ทิวาว่ามา..

"อืม...น้องแพรวมีปัญหาที่ช่องลมที่คอจริงๆ ครั้งก่อนที่เคยไปแสดงก็มีปัญหาที่ปากบวม เพราะก่อนมาร่วมอบรมแม่น้องแพรวเล่าให้ฟัง อาจารย์แม่ว่า.. "

จากนั้นทิวาก็บอกไปตามที่เคยเห็นทั้งหมดว่า..

"คณะอบรมจะกลับมาจัดงานเลี้ยงอีกครั้งที่นี่ และจะมีพี่อาจารย์อีกคน ทำหน้าที่รับผิดชอบในครั้งหน้า "

คณะอาจารย์ก็พากันถามว่า..

"ใครหรอคะ? "

ทิวาบอกว่า " พี่อาจารย์คนที่ติดต่อช่าง เรื่องการสั่งทำอุปกรณ์การแสดงคนนั้นคับ แต่ในงานวันนั้นผมไม่เห็นอาจารย์พี่เอ๋คนเดียว คับ "

ทิวาว่าไปตามที่ตนคยได้เห็น...

อาจารย์พี่เอ๋และอาจารย์แม่ก็ถามทิวาว่า..

"จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นกลับตน"

ทิวาก็บอกอาจารย์พี่เอ๋ไปว่า

"สิ่งที่ผมเห็นนั้น วันนั้นพี่เอ๋ขับรถเร่งรีบ เหมือนจะรีบไปทำอะไร ที่ไหนสักแห่งนึง พอขับรถไปได้ราวครึ่งทาง ข้างหน้าจะเป็นสี่แยกหรือสามแยกนี่ล่ะคับ รถของพี่เอ๋จะเกิดอุบัติเหตุตรงนั้น โดนรถพุ่งมาชน" 

เล่าจบทิวาก็บอกไปตามที่มาในหัวเวลานั้นว่า..

"พี่เอ๋คับ ให้พี่ไปถวายสังฆทานและเติมน้ำมันตะเกียง ปล่อยปลาหน้าเขียง5-9ตัว และหาดอกไม้ธูปเทียนชุดนึงเอาไปไหว้องค์ยมราช..."

พี่เอ๋และอาจารย์แม่ ก็ถามกลับมาว่า "ทำแล้วเหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดใช่ไหม? "

ทิวาก็ตอบกลับไปว่า "เหตุนั้นยังไงก็ต้องเกิดคับ แต่ว่ามันอาจจะเป็นเพียงเล็กน้อย การเจ็บตัวของพี่เอ๋จากเจ็บหนักก็อาจจะเจ็บน้อยได้...! "

และทิวาก็พูดต่อไปว่า

"กรรม..มันแก้ไม่ได้คับ เราทำได้ก็เพียงแค่บรรเทาให้หนักนั้น เป็นเบาได้แค่นั้น สิ่งที่จะแก้ได้ดี คือตัวเราเมื่อรู้ว่าเราขับเร็วขับไว ก็ให้ลดความเร็วลงไม่ประมาทคับ"

...หลังจากพูดคุยกันจบลง ทุกคนก็เตรียมตัวกลับบ้าน ทิวาก็เดินไปที่รถเบลขนของ ก่อนแยกย้ายอาจารย์พี่เอ๋ก็ได้เอ่ยขอเบอร์โทรของทิวาเอาไว้

" น้องทิวา พี่เอ๋ขอเบอร์ติดต่อน้องได้มั้ยคะ? "

ทิวาก็จดเบอร์โทรของตน ส่งให้อาจารย์พี่เอ๋ไป จากนั้นทิวาก็เข็ญรถเบลมาที่ลิฟ และลงไปยังชั้นล่าง เพื่อส่งคณะอาจารย์ขึ้นรถ

เมื่อพี่เอ๋เอารถมาจอด ที่หน้าโรงแรม ทิวาก็ช่วยยกสัมภาระขึ้นบนรถ เสร็จแล้วคณะอาจารย์ก็เอ่ยขอบคุณ และยื่นซองสีขาวมาให้ทิวา

พี่เอ๋บอกว่าให้รับไว้ "รับไว้นะคะ"

ทิวายกมือไหว้พร้อมรับซองนั้นมา คณะอาจารย์ขึ้นรถเรียบร้อย ก็ขับออกไป

ส่วนตัวทิวาก็นำรถเบลไปเก็บและกลับเข้าออฟฟิศแผนกไป...

..............

ทิวาเปลี่ยนชุดเครื่องแต่งตัวออก แล้วผลัดมาใส่ชุดธรรมดา เสร็จแล้ว ทิวาก็เปิดซองดู..

ในนั้นมีเงินจำนวน500บาท ทิวาก็เก็บเอาไว้ พอหัวหน้าแผนกเข้ามาในออฟฟิศ ทิวาก็ส่งซองนั้นให้หัวหน้าเก็บเอาไว้ เพื่อแบ่งให้กับทุกคนในแผนก

หลังจากทำการจัดเก็บโต๊ะและจัดตรียมห้องใหม่ เพื่องานในวันพรุ่งนี้ กับคณะใหม่ที่จะมาใช้ห้องอบรมสัมมนาเสร็จ

ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ออฟฟิศ พี่หัวหน้าแผนก ก็ได้นำเงินค่าบริการงานอบรมที่ได้รับมาจากจุดต่างๆ มารวมกัน และจัดสรรแบ่งให้แก่ทุกคน

เพื่อนร่วมงานในแผนกทั้งหมดแปดคน หัวหน้าก็จัดการแบ่งบันให้ทุกคน ตกแล้วก็ได้รับเงินกันไปคนละ350บาท

จากนั้นก็พากันแยกย้ายพักผ่อนตามสบาย เพื่อรอเวลาเลิกงานกลับบ้านกันต่อไป.....

******************************

"สินน้ำใจหาได้ จากตรงไหน

ค่าของคนวัดกันที่สิ่งใด

อันเพื่อนดีเพื่อนแท้แม้นห่างไกล

ก็ไม่เท่าเพื่อนที่ร่วมสามัคคี..."

*****************************

ขอขอบพระคุณมิตรรักนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านนะครับ กับนิยายกับนิยายที่ผู้เขียนได้นำมาเผยแผ่ ทุกท่านสามารถแนะนำติเตียนกันเข้ามาได้นะครับ เพื่อตัวนักเขียนจะได้นำไปพัฒนาในงานเขียนต่อไป

...ขอบคุณครับผู้แต่ง.. ทัพ เทวภัทร...