webnovel

ตอน กรรมบันดาล4

    ตอน กรรมบันดาล4

...ทิวาตัดสินใจใช้ไหล่กระแทกประตูเพื่อที่จะให้ประตูนั้นพัง และจะได้เข้าไปห้ามเธอได้ ทิวาใช้ทั้งเท้าถีบและไหล่กระแทกอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง จนประตูห้องเปิดออก ทิวาเดินเป็นวิ่งเข้าไปกระชากแขนของแฟน จับมือที่ถือใบมีดโกนแล้วบิดนิดนึงให้เธอปล่อยมีดทิ้ง พอเธอปล่อยมีดหลุดจากมือ ทิวาก็ดึงเธอเข้ามาในห้องโดยมือนึงจับเเขนเอาไว้ ส่วนอีกมือนึงก็เปิดลิ้นชักตู้เสื้อผ้า ค้นหาผ้าพันแผล เอามาพันแขนของแฟนเอาไว้เพื่อห้ามเลือดในเบื้องต้น พอทำแผลให้แฟนเสร็จ

ทิวาก็มองเห็นที่พื้นห้องมีเลือดเต็มไปหมด รอยเลือดที่อยู่ตามพื้น มองเห็นเป็นรอยเท้า ทิวาจึงมองไปดูที่แฟนก็ไม่เห็นแผล จากนั้นจึงก้มลงมองที่เท้าตนเอง เพราะเริ่มรู้สึกแสบๆที่ฝ่าเท้า จึงได้รู้ว่ารอยเลือดพวกนั้นเป็นของตนเองนั่นเอง เมื่อรู้ว่าตนเองได้แผลจากการถีบประตูจนเท้าแตก ทิวาก็ไม่สนใจที่จะทำแผลของตนเอง เพราะมองดูแล้วแผลที่เปิดนั้น เลือดได้หยุดไหล แล้ว

ทิวาหันมาว่าให้แฟนและถามว่า "คิดฆ่าตัวตายเพื่ออะไร? มันใช่หรอ? ทำไมถึงทำเป็นคนสิ้นคิดเเบบนี้..! แล้วลูกของคุณจะอยู่ยังไง? แม่และญาติๆคุณล่ะจะว่ายังไง?"

.. ทิวาว่าให้แฟนไปหลายอย่างตามอารมณ์ที่มีในตอนนั้น หากเป็นลูกเป็นเต้า ทิวาคงตีให้หลังแอ่นไปแล้ว จากนั้นทิวาจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำล้างแผลตนเองแล้วกลับออกมาใช้ผ้าเช็ดเท้าให้แห้ง แล้วจึงตรวจดูแผลตนเองอีกที จากนั้นจึงเปิดลิ้นชักเอายาเหลืองมาทาที่แผล "เท้าเริ่มปวดเพราะเท้าแพลงยังไม่หายดี ก็มาเพิ่มของใหม่ซ้ำไปอีก"

" การฆ่าตัวตายมันไม่ใช่ผลดี " ทิวาว่าแฟน และไม่ต้องมาคิดทำอย่างนี้อีก "ครั้งนี้ถือว่าผมได้ห้ามและแก้ไขมันแล้ว หากคุณคิดจะฆ่าตัวตายอีก ครั้งหน้าผมไม่ถือว่ามันคือตราบาปของผม" ทิวาบอกเธอ จากนั้นทิวาจึงถามเธอว่า "ฆ่าตัวตายทำไม??"

แฟนตอบมาว่า "เหตุเพราะทิวาเองจะทิ้งเธอๆจึงจะฆ่าตัวตาย..."

ทิวาจึงตอบกลับไปว่า "แล้วที่ๆคุณไล่ผมให้ผมไปจากคุณล่ะ!! ในเมื่อคุณไล่ผมแล้ว ผมจะอยู่เพื่อ??!" ทิวาตอบกลับ...

 ส่วนแฟนก็เอาแต่ร้องไห้ขอร้องไม่ให้ทิวาย้ายไป ทิวาจึงตอบไปว่า

"ก็ได้ผมจะยังไม่ไป แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกครั้ง เราจบขาดกันไปเลย"

"ครั้งหน้าคุณจะเป็นจะตายยังไงมันก็จะไม่เกี่ยวกับผม"

ทิวาบอกเธอ ถึงเหตุผลและให้โอกาสเธออีกครั้ง...

...หลังจากเหตุการณ์ได้ผ่านไป ทิวาได้ลาหยุดงานอีกครั้ง เหตุเพราะเจ็บเท้าที่ใช้พังประตู หยุดงานวันที่สองทิวาก็ออกบ้านไปที่วัดเพื่อทำบุญถวายสังฆทานอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรต่างๆ ส่วนห้องที่ทิวาไปทำสัญญาเช่าเอาไว้ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นโดยยังไม่ไปอยู่

ครั้งนี้ทิวาหยุดงานไปอีก3วันกับเหตุการณ์ที่แฟนคิดฆ่าตัวตายและตนเองเจ็บซ้ำ...

หลังจากหยุดงานไป3วัน ทิวาก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม ทั้งๆที่เท้าก็ยังไม่หายเจ็บดี แต่ก็ทนเอา..และทนอยู่กลับแฟนต่อไป

หลายวันผ่านทิวาหายเจ็บเท้าดีแล้ว และวันนั้นเป็นวันหยุดของตนที่จะได้พักซึ่งวันหยุดของทิวาไม่ได้ตรงกับเสาร์อาทิตย์ ทิวาจึงอยู่ที่ห้องคนเดียวและมีเวลาได้คิดทบทวนอะไรต่างๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

"ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริงๆกับสิ่งที่เขาเคยได้เห็น" แตกต่างบ้างบางจุดแต่ก็ใกล้เคียง และคิดว่าจุดที่แตกต่างนั้นคงเพราะ "ฟ้าคงลิขิตมันเพื่อให้เขาได้แก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่เขาเห็น "

มันจะได้ไม่เป็นตราบาปติดตัวเขานั่นเอง....

หลังจากคิดทบทวนอะไรต่างๆจนเที่ยงวัน ทิวาก็ทำใจให้นิ่งและนั่งทำสมาธิเพื่อปรับสภาพจิตใจตนเองจะได้ไม่เศร้าหมอง ในขณะทำสมาธินั้น ก็ได้มีภาพเกิดขึ้นมาในสมาธิของทิวา "ภาพในสมาธิที่ทิวานั้น เห็นว่าตนเองได้แยกทางกับแฟนและย้ายออกไปอยู่คนเดียว และในภาพนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทิวารู้จัก เป็นเพื่อนและพัฒนาหันมาคบหากัน เธอได้มาขอให้ช่วยตรวจชะตาของพี่เขยเธอ ว่าเป็นอะไรบ้าง เพราะว่าการล้มป่วยหลังจากกลับจากไปเที่ยว ในภาพมีชายคนหนึ่งตัวโตอ้วนกลมนอนในเปลพยาบาล ให้น้ำเกลืออยู่ใบหน้าซีดขาว ภาพต่างๆค่อยๆทยอยเข้ามาในสมาธิของทิวา"

" ทิวาเห็นตนเองแนะนำให้ย้ายผู้ชายคนนั้นออกจากโรงพยาบาลเดิมเพื่อไปรักษาที่ใหม่ แล้วภาพก็ตัดมาที่ชายคนนั้นกำลังทำการย้ายโดยรถพยาบาล แต่ระหว่างทางที่ทำการเคลื่อนย้าย ชายที่ป่วยนั้นเกิดอาการช๊อคในรถแล้วพยาบาลก็พยายามช่วยปั้มหัวใจกระตุ้นจนอาการกลับคืนมา และรถก็มาถึงโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โดยหมอรีบนำส่งตัวเข้าห้องไอซียูเพื่อรักษา ทิวาที่ยืนรอฟังอาการ อยู่กับญาติๆของชายคนนั้น จนหมอได้ออกมา พวกญาติๆก็รุมเข้าไปถามหมอ หมอก็บอกมาว่า คนไข้มีโอกาสรอด แต่อาจเป็นอัมพฤกษ์ญาติๆต้องทำใจนะครับหมอตอบ" "และบอกเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะว่าตอนย้ายคนป่วยมานั้นอาการคนป่วยหนักมาก น่าจะทำการย้ายมาให้ไวกว่านี้ และอีกอย่างตอนเคลื่อนย้ายมา คนไข้เกิดอาการช๊อคเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน" พอหมอแยกตัวออกไป ทิวาได้เดินตามหมอไปและเรียกหมอเอาไว้เพื่อสอบถามอีกครั้งนึง "คุณหมอคับคนป่วยจะรอดไหมคับ" ทิวาถามหมอ

หมอตอบกลับมาว่า

"มีโอกาส30%ที่จะรอด" หากคนไข้ย้ายมาก่อนหน้านี้นั้น มีโอกาสรอดเต็มร้อย%" ทิวาได้ฟังก็ถามหมออีกทีว่า "คุณหมอช่วยบอกผมแบบกระจ่างแจ้งกว่านี้ได้ไหมคับ?" หมอก็เลยหันหน้าหันหลัง เพื่อมองรอบๆตัวเห็นว่าปลอดคน หมอก็ได้ตอบทิวา ว่า "ที่โรงพยาบาลเดิมนั้น เค้าได้ใช้คนป่วยทดลองยา ทางญาติไม่น่าจะเอาคนไข้ไปรักษาที่นั่นเลย แต่หมอจะพยายามรักษาคนไข้ให้เต็มกำลัง ทางญาติก็ต้องทำใจเอาไว้ด้วยนะครับ"

"ภาพก็ตัดมาอีกจุดเป็นภาพในวันสุดท้าย คือวันที่คนป่วยนั้นเสีย แล้วทางญาติแม่ของคนป่วยไม่ได้เตรียมอะไรเลย ธูปเทียนก็ไม่มี" ในภาพเป็นทิวากับเเฟน ที่ออกไปจัดหามา แต่วันนั้นก็ไม่ได้นำศพกลับบ้านได้ฝากศพเอาไว้ที่โรงพยาบาลเพราะว่ามันมืดแล้ว"

"ภาพตัดมาตอนขากลับจากโรงพยาบาล ญาติๆของแฟนพากันนั่งรถยนต์กลับ ส่วนทิวานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มากับหลานเขยของแฟน รถแล่นมาจนใกล้จะถึงทางแยก อยู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ตัวทิวาเองไม่เป็นอะไร ส่วนหลานเขยของแฟนที่เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บ มีแผลเลือดออกเพราะรถล้ม" "ภาพตัดมาอีกครั้งเป็นเหตุการณ์ในงานศพ วันแรกของคืนสวดพระอภิธรรมก็มีเหตุการณ์ไม่กินเส้นกันของญาติทั้งสองฝ่าย..."

"ภาพต่างๆ ค่อยๆฉายมาในสมาธิของทิวา จนมาถึงวันที่สามตอนเช้าที่เกิดเรื่องร่าง ศพบวมฝาโลงเปิด..."

"ภาพตัดมาอีกจุด เป็นขณะมัดตราสังฆ์ สัปเหรอได้ใช้ผ้าดิบผูกมันร่างกายเอาไว้ แล้วทำปากขมุบขมิบเหมือนท่องมนต์ผูกร่างศพเอาไว้ และภาพก็ค่อยๆทยอยมาเรื่อยๆจนเสร็จพิธีงานศพ ทางญาติแม่ของคนตายนั้นไม่ยอมออกค่าใช้จ่ายอะไร ให้แต่ทางลูกสะใภ้ออกค่าใช้จ่ายต่างๆในงาน แถมเงินที่ได้จากการจัดงานศพและเงินกองทุนต่างๆ ก็เป็นแม่ของคนตายที่เก็บเอาไว้หมด จากนั้นภาพในนิมิตสมาธิของทิวาก็หายไป" ทิวาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาและค่อยๆขยับตัวขยับขา เพราะขาได้เป็นเหน็บซึ่งเป็นเพราะการนั่งสมาธินานๆ

ซักพักทิวาก็มานั่งสูบบุหรี่ตรงระเบียง เพื่อคิดทบทวนกับภาพในสมาธิที่ตนเห็น ในหัวทิวาคิดว่า "สิ่งที่ตนได้เห็นนี้ มันจะเกิดขึ้นจริงๆหรอ เพราะตนเองกับผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ได้คบกัน เพียงรู้จักกันและเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น" " อืมอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เพราะขนาดเหตุการณ์ที่แฟนคนปัจจุบัน จะฆ่าตัวตายมันก็ยังเกิดขึ้นจริงๆเลย...."

(รอติดตามกันต่อนะคับ)

******************************

"#กรรมคือการกระทำเเต่เหตุที่รู้เห็นอาจเพื่อการแก้ไข....."