webnovel

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์

เรื่่องราวของสาวโสดมนุษย์แม่ลูกสามอายุห้าสิบสองปีที่เธอได้รับพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อเพียรบำเพ็ญศีลและธรรมจนบรรลุตอนอายุสามสิบห้าปี พรคือยิ่งแก่เธอจะยิ่งสาวขึ้น กับพระเอกละครไทยชื่อดังอายุสี่สิบสี่ปีที่ยังโสดเพราะรอคอยรักแท้ หลังจากแม่ของเธอตายเมื่อสองปีก่อนทั้งสองมักฝันว่าอยู่ด้วยกันแบบคู่รักเสมอๆทั้งที่ไม่เคยพบกันพวกเขาจึงไม่สามารถติดตามหากันได้ จนกระทั่งเขาประกาศผ่านสื่อออนไลน์ให้หญิงสาวที่ชอบเขาจีบเขาก่อนได้เขาอยากสร้างครอบครัวแล้ว เธอถูกดวงวิญญาณของแม่ชักนำให้พิมพ์ใบสมัครส่งไปถึงDMส่วนตัวของเขาในคืนฮาโลวีนซึ่งสะดุดตาเขาให้กดอ่านจนจบแล้วตามหาเธอเจอเพจของเธอ โดยเขาคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามีเสน่ห์น่าสนใจมากเขาจึงเฝ้าติดตามดูเธอเงียบๆ ส่วนเธอก็สนทนากับเขาทุกวันโดยการเล่าและบ่นเรื่องต่างๆให้เขาฟังทำให้เขามีความสุขและชอบเธอมากจึงสร้างเพจปลอมเป็นผู้หญิงเพื่อขอเป็นเพื่อนและสนทนาเรื่องเป็นแฟนคลับของเขากับเธอเสมอ เรื่องราวของคนทั้งคู่ที่อยู่คนละมิติสังคมแต่เชื่อมโยงกันได้จริงในเวลานอนหลับลึก แต่กว่าจะได้พบกันผ่านการพิสูจน์รักแท้ที่เชื่อมต่อมาจากอดีตชาติเรื่องชุลมุนวุ่นวายสุดที่จะคาดเดาได้จึงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาใช่คู่แท้ทางจิตวิญญาณที่เฝ้ารอคอยกันจริงหรือไม่โปรดติดตาม,,,,,,

DaoistD7FIet · Fantasy
Not enough ratings
53 Chs

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์ : ตอนที่ 44 สองจิตนฤมิต/2

" Ue wo muite, arukou

ฉันแหงนมองฟ้าตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป

Namida ga koborenai you ni

เก็บกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล

Omoidasu haru no hi, hitori bocchi no yoru

ฉันยังจำช่วงเวลาในฤดูใบไม้ผลิได้อยู่, ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง

Ue wo muite, arukou

ฉันแหงนมองฟ้าตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป

Nijinda hoshi wo kazoete

เฝ้านับดวงดาวที่ทอแสงประกายริบหรี่

Omoidasu natsu no hi, hitori bocchi no yoru

ฉันยังจำวันเวลาในฤดูร้อนได้อยู่, ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง

Shiawase ha kumo no ue ni

ความสุขคงอยู่เหนือปุยเมฆ

Shiawase ha sora no ue ni

ความสุขคงอยู่บนท้องฟ้า

Ue wo muite, arukou

ฉันแหงนมองฟ้าตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป

Namida ga koborenai you ni

เก็บกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล

Nakinagara aruku, hitori bocchi no yoru

ฉันเดินไปก็ร้องไห้ไป, ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง "

ณนนท์ เดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของบ้าน เขาตรงเข้าไปในห้องนอน

จากนั้นเขากด รีโมทเปิดเพลง เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงาน

ผ่านลำโพงเล็กๆที่ซ่อนอยู่ตามมุมห้อง

และแล้ว เสียงเพลง: Sukiyaki หรือ (Ue o muite arukou) ขับร้องโดย

คุณ Kyu Sakamoto ก็ดังกระหึ่มขึ้นรอบห้องนอนด้วยระบบการติดตั้งเครื่องเสียง

ที่ดีเยี่ยม พระเอกคนดังมีสีหน้าและแววตาดูเศร้าและเหงาจนน่าใจหาย...

เขานั่งลงบนเตียงนอนแล้วก้มลงตบหัวโรนัลโด้ซึ่งวิ่งขึ้นบันไดติดตามเขามานอน

บนที่นอนของมัน โดยณนนท์ได้ปูพรมผืนโปรดเอาไว้ให้มันที่ข้างเตียงนอนของเขา

" Omoidasu aki no hi, hitoribocchi no yoru

ฉันยังจำวันเวลาในวันฝนตกได้อยู่, ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง

Kanashimi ha hoshi no kage ni

ความเศร้าแฝงตัวอยู่ในเงาของดวงดาว

Kanashimi ha tsuki no kage ni

ความเศร้าแฝงตัวอยู่ในเงาของดวงจันทร์

Ue wo muite, arukou

ฉันแหงนมองฟ้าตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป

Namida ga koborenai you ni

เก็บกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหล Nakinagara aruku, hitoribocchi no yoru

ฉันเดินไปก็ร้องไห้ไป, ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง

Hitoribocchi no yoru

ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง "

(อ้างอิงจากเพลง: Sukiyaki หรือ (Ue o muite arukou) แปลเป็นไทยได้ว่า

"ฉันเงยหน้าก้าวเดินไป" ขับร้องโดยคุณ Kyu Sakamoto ในปี 1961

โดยค่ายเพลง Toshiba / เครดิตคุณแมค จาก akitia)

ณนนท์ ล้มตัวลงนอนบนที่นอน พระเอกชื่อดังซึ่งเป็นผู้ชายในฝันของสตรี

จำนวนมากเอามือขึ้นมาก่ายที่หน้าผากของตัวเอง.. คืนนี้เขาเปิดผืนผ้าม่าน

ขนาดใหญ่ตรงผนังห้องที่แลเห็นทิวทัศน์ด้านนอก ดวงตาคมเข้มมีเสน่ห์

น่าหลงใหลของณนนท์.... เหม่อมองออกไปทะลุแผ่นกระจกขนาดใหญ่

ซึ่งเป็นผนังกั้นห้องนอนกับโลกที่มืดในยามราตรีกาล

จริงอยู่ ถึงแม้ว่าพื้นที่ในกรุงเทพมหานครฯ ยามค่ำคืนเช่นนี้

จะมองเห็นแสงดาวบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ได้ยากลำบาก เพราะมีฝุ่นผง

ควันเล็ก ๆ ปกคลุมอากาศเอาไว้อย่างหนาแน่น จนทำให้ค่าความปกติ

ของผงฝุ่นเขม่าควันภายในเมืองหลวงของประเทศไทย สูงขึ้นจนเป็นอันตราย!!!

ต่อชีวิตของมนุษย์เมืองผู้ซึ่งอาศัยและทำมาหากินอยู่อย่างแออัดยัดเยียด

จนเป็นสภาพปกติของชาวมหานครไปแล้ว

ณนนท์ เหม่อมองออกไปที่ด้านนอกของกระจก.... พร้อมกับปล่อยใจ

ล่องลอยไปตามเสียงเพลง.......ที่ดังขับกล่อมภายในห้องนอนของเขา......

" พี่ฝันจะสร้างรังรัก

สักหนึ่งหลัง

ณ ริมฝั่งเจ้าพระยา

อยู่อาศัย

แม้นฝันของพี่

ไม่เกิดมีอันเป็นไป

สองชีวีเราคงได้ร่วมเสน่หา

รังรักในจินตนาการ

วิมานรักอันบรรเจิดจ้า

ริมหน้าต่างปลูกซุ้มลัดดาห้องนอนสีฟ้า

ติดม่านชมพู

ความรักเป็นมนต์ดลใจ

ฝันไปพลังใจต่อสู้

คอยพี่หน่อยเถิดนะโฉมตรู

มินานจะรู้

ว่ารังรักอยู่แห่งใด "

ณนนท์ พลิกตัวของเขามาทางด้านซ้าย มือขวาที่ยกสะเปะสะปะมาเพื่อกอดหมอน

กอดปลาโลมาตัวโปรดของเขานั้นกระทบสัมผัสเข้ากับอุ่นไอของร่างเล็กๆ ของใคร

อีกคนหนึ่ง!!.......... ใครกัน!!??.......!!!!!!??

นิมนิม นอนหลับสนิทด้วยฤทธิ์จากยารักษาโรคประจำตัวซึ่งเธอต้องทานเป็นจำนวน

หลายเม็ดทุกๆ คืนก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอสะดุ้ง!! ตกใจสุดขีด!!!!

เมื่อได้ยินเสียงกระทบของวัตถุใดๆ ที่เกิดขึ้นได้ในช่วงกลางคืน หรือแม้แต่เสียง

เปิดปิดประตู,หน้าต่างทั่ว ๆ ไป แต่มันสามารถทำให้หัวใจของนิมนิม กระโดดลงไป

อยู่ที่ปลายฝ่าเท้าได้อย่างรวดเร็ว!!!! แล้วเธอก็จะตื่นขึ้นมาด้วยความหนาวเย็น

จนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง!!!!! ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้นอนในห้องปรับอากาศ อีกทั้งอากาศ

ไม่ได้หนาวเย็นผิดปกติ และบนหน้าอกของนิมนิมจนถึงคอนั้น จะมีผ้าห่มผืนนุ่ม

ปกคลุมห่มกายเอาไว้เสมอตลอดเวลาที่เธอเข้านอน ทั้งหมดนี้คืออาการของ

*โรคโฟเบีย* อันทุกข์ทรมานซึ่งกลายสภาวะมาจาก *โรคซึมเศร้าหลังคลอด*

ที่ทำให้เธอต้องทานยามาตลอดระยะเวลา 17 ปีหลังจากคลอดบุตรคนที่สาม

" ความรักเป็นมนต์ดลใจ

ฝันไปพลังใจต่อสู้

คอยพี่หน่อยเถิดนะโฉมตรู

มินานจะรู้

ว่ารังรักอยู่แห่งใด

รังรักริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา

สุขตราฝังตรึงซึ้งอยู่ในใจ

แม้นความฝันพี่เป็นจริงได้

พี่จะให้ชื่อว่ารังรักอนุสรณ์

ความฝันเป็นจริงวันใด

หัวใจพี่คงจะบินว่อน

คอยพี่ก่อนไม่ช้าบังอร

แม้นใจไม่ร้อน

แน่นอนเราได้สุขสันต์ "

( อ้างอิงจาก เพลง : รังรักในจินตนาการ / ศิลปิน : ทูล ทองใจ )

ในท่ามกลางแสงสลัวเลือนลาง ภายในห้องนอนแบบเรียบง่ายของนิมนิมนั้น

เธอรู้สึกหนาวเย็นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง!!!! นิมนิมหดตัว งอขาทั้งคู่เข้ามาอยู่

ใต้ผ้าห่มผืนโปรดของตัวเอง ก่อนที่เธอจะพลิกตัวตะแคงจากการนอนทับด้านขวา

เพื่อพลิกไปทางด้านซ้ายของเตียงนอน ทว่า!!........ร่างและมือของเธอ

กลับปะทะเบาๆ เข้ากับร่างอุ่นๆ ซึ่งมีขนาดร่างกายใหญ่กว่าร่างของเธอ!!!!......

" หนาว..หนาวเหลือเกิน.. "

นิมนิม พูดพึมพำออกมาเบา ๆ และเบียดกายอันผอมบางของเธอเข้าไปซุก

รับไออุ่นจากแผ่นอกกว้างที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดเนื้อผ้านุ่มสบาย ศีรษะของเธอ

ซุกอยู่กลางหว่างอกและอยู่ใต้คางของร่างแข็งแรงด้วยกล้ามเนื้อ ซึ่งมีความ

อบอุ่นมากมายกระจายออกสู่ร่างที่กำลังหนาวเย็นจนกายสั่นไปทั้งตัว

ณนนท์ รู้สึกงง!? จนนิ่งอึ้ง!!? ไปชั่วขณะหนึ่ง!!?? เขาลืมตาและปรับสายตา

ให้เข้ากับแสงสลัวๆ ภายในห้องๆ หนึ่งนี้.......... จนกระทั่งเขามองเห็นว่า

ร่างกายของอีกคนที่มือและแขนของเขาเปะปะมากระทบสัมผัสเข้านั้น เป็น

ร่างกายของสตรีนางหนึ่งซึ่งมีผิวกายที่เย็นจนน่าตกใจ!!

เมื่อสตรีผู้นั้นพลิกกายของเธอจากทางด้านขวามาทางด้านซ้าย ณนนท์จึง

สามารถมองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยตามาก่อน เขาอึ้ง!!! หนักเข้าไปอีก......

" คุณนิมนิม!!! "

ณนนท์ จ้องมองใบหน้างดงามที่หลับตาพริ้ม ผมยาวสลวยแผ่กระจายแลดูยุ่งเหยิง

แต่กลับช่วยขับหน้าตาของนิมนิมให้ดูเหมือนหญิงสาววัยรุ่นที่ปราศจากการตกแต่ง

ด้วยเครื่องสำอางค์ใดๆ ในขณะที่ณนนท์กำลังงง!! และตัดสินใจไม่ได้ว่าเขาควรจะ

ทำเช่นใดต่อไปดี....? น้ำเสียงแผ่วเบา.. สั่นเครือ.. จนทำให้ผู้ได้ยินรู้สึกได้ถึงความ

ทุกข์ทรมานของเจ้าของเสียง ก็เป็นดั่งมนตร์สะกดให้พระเอกหนุ่มโสดรูปงามค่อยๆ

วางมือข้างซ้ายและแขนซ้ายของเขาลงบนร่างเล็กบอบบางงดงามนั้น

" หนาว... หนาวจังเลย..... หนาว.... "

นิมนิม ยังคงพึมพำเบาๆ แม้ขณะที่หดขาของเธอเองเข้ามาอยู่ในผืนผ้าห่มของตนเองเรียบร้อยแล้ว หน้าตาของหญิงสาวในวัย 51 ปีในเวลาที่ไม่รู้สึกตัวและปราศจากการ

ประทินโฉมใดๆ อีกทั้งผมยาวสลวยที่ลื่นไหลไปตามใบหน้า,ลำคอ รวมทั้งปรกตกลงมาที่บริเวณหน้าอกซึ่งมีเสื้อยืดสบายตัวสวมใส่อยู่นั้น ดูราวกับเธอเป็นสตรีสาวที่มีอายุไม่น่า

จะเกิน 30 ปี วงพักตร์นั้นเล่าช่างดูผ่องใสสะอาดหมดจด ริมฝีปากได้รูปเรียวงาม จมูกโด่ง

เป็นสันงอนหน่อยๆ คิ้วธรรมชาติโก่งพองาม ขนตาดำหนาเป็นแพงอนยาวโดยไม่ต้องดัด

แสงจันทราที่สาดส่องมาตามช่องหน้าต่างสามบานที่ซึ่งเปิดอ้ารับแสงและลมธรรมชาติ

ในห้องแห่งนี้ ยิ่งขับใบหน้าและผิวพรรณของมนุษย์แม่ผู้มีบุตรแล้วถึง 3 คนให้ชวนพินิจ

ดูอยู่ไม่รู้เบื่อหน่ายสำหรับบุรุษคนพิเศษ ที่ซึ่งเขาเองก็ยังไม่อาจหาคำตอบให้กับตนเองได้เช่นกัน? ว่า...เหตุใดเขามานอนอยู่บนเตียงเดียวกับนิมนิมได้เยี่ยงนี้หนอ...?????!!!!

เมื่อณนนท์ค่อยๆ วางมือและแขนข้างซ้ายของเขาลงบนร่างเล็กบอบบางของนิมนิม

ที่หนาวจนสั่นไปทั้งร่างนั้นแล้ว เขาตัดสินใจค่อยๆ ใช้มือและแขนซ้ายที่แข็งแรง

ของเขาดึงกอดกระชับร่างของเธฮให้เข้ามาชิดแนบแผ่นอกกว้างบึกบึนสมบูรณ์ด้วย

กล้ามเนื้อที่เกิดจากการออกกำลังกายเฉพาะส่วนอยู่เสมอ

ส่วนแขนขวานั้น เขาวางพาดยาวลงกับหมอนเพื่อช้อนเอาศีรษะและใบหน้าของ

นิมนิมให้มาทับอยู่บนลำแขนอันซึ่งมีกระแสไออุ่นของมนุษย์เพศชาย

ณนนท์ เริ่มชินกับการปรับสายตาต่อแสงสลัวภายในห้อง เขาจึงเห็นว่า

หญิงสาวผู้ที่กำลังหลับสนิทเธอนอนอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย พร้อมทั้งหด

งอขาและตัวอยู่ในผ้าห่ม แต่ดูเหมือนความอบอุ่นจะยังไม่เพียงพอ เธอจึงยังคง

พึมพำๆ ว่าหนาว และร่างกายของเธอจากที่เขาสัมผัสอยู่นั้นมีอุณหภูมิที่เย็น

กว่าคนปกติทั่วไปจนน่าตกใจ!! สำหรับเขาในตอนแรก ที่มือของเขาสัมผัส

กับผิวและร่างกายช่วงบนของเธอ